บทที่ 13 พรเปี่ยมชีวิต
เด็กหัดเดิน แม้จะล้มแล้วล้มเล่า แต่ก็ไม่เคยหยุด หญ้าอ่อนแม้จะถูกหินทับ แต่ก็สงบตัว เพียงเพื่อรอวันแทงยอดขึ้นใหม่ ไม้ใหญ่แม้ถูกไฟแล้งเผาผลาญ แต่ก็พร้มแตกหน่อเมื่อฤดูฝนมาเยือน
พลังแห่งชีวิตนั้น ไม่รู้จักระย่อท้อ อุปสรรคถึงจะมาขวางกั้น อันตรายถึงจะมาคุกคาม แต่ไม่เคยสงบชีวิตให้จำนน ภัยเหล่านี้ทำได้อย่างมากเพี่ยงปลดชีวิตไปเท่านั้น แต่ตราบใดที่ชีวิตยังดำรงอยู่ ชีวิตย่อมหาทางหลุดรอดและเติบใหญ่ในที่สุด
เมื่อปี ๒๓๒๕ มีการขุดพบซากหมู่บ้านดึกดำบรรพ์ในณี่ปุ่น อายุไม่ต่ำกว่า ๒๐๐๐ ปี คนสมัยนั้นรู้จักทำนาแล้ว โดยเก็บผลผลิตไว้ในหลุดใต้ดิน หลุมหนึ่งยังมีเมล็ดข้าวหลงเหลืออยู่ แต่ดำคล้ำและตายหมดแล้ว กระนั้นก็ยังมีเมล็ดพืชอยู่เมล็ดหนึ่งรูปร่างแปลกกว่าเพื่อน ที่น่าอัศจรรย์ก็คือเมื่อนำเมล็ดนี้ไปฝังดนและรดน้ำ มันกลับงอกและไม่นานก็ผลิดอกงดงาม
เมล็ดนั้นคือ แมกโนเลีย
พลังแห่งชีวิตนั้นยิ่งใหญ่นัก ความยิ่งใหญ่นั้นอยู่ที่การยืนหยัด รู้จักอดทน และรอคอยได้ แม้แต่เวลา ๒๐๐๐ ปี ก็หยุดยั้งความปรารถนาที่จะเติบใหญ่ของแมกโนเลียต้นนั้นไม่ได้ แม้จะถูกบดอัดและกระหน่ำปาดใด แต่แมกโนเลียก็ยังคงความอ่อนโยนและหยิบยื่นความงดงามให้ทุกคนได้ชื่นชมอยู่นั่นเอง
พลังและคุณสมบัติดังกล่าวคือ“พร” ที่ธรรมชาติมอบให้แก่ทุกชีวิต แน่ละ พร้อมๆกันนั้น ธรรมชาติก็มอบความผันผวนปรวนแปรปรปักษ์ และความทุกข์มาให้แก่เราด้วย
แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มาช่วยให้ชีวิตเข้มแข็ง เติบใหญ่และงดงาม ต้มไม้ไม่ได้ปรารถนาแค่ฤดูฝน หากยังต้องการฤดูร้อน ฤดูหนาว รวมทั้งบางคราวก็ประสงค์ความช่วยเหลือของไฟป่าด้วย
ทำนองเดียวกัน ภูมิต้านทานในร่างกายเราก็ต้องการเชื้อโรคเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะและเจนจัด ภูมิต้านทานที่เหินห่างจากโรคติดเชื้อ บางครั้งอาจแปรปรวนและทำร้านร่างกายของตัวเองได้
ความทุกข์เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายก็จริงอยู่ แต่เราหาได้เกิดมาเพื่อจะทุกข์ไม่ธรรมชาติประทานความทุกข์มาให้แก่เราเพื่อผลักไสให้เราก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่งแต่ถ้าสามารถ รุดไปสู่อิสรภาพ จนทุกข์แผ้วพานไม่ได้เมื่อไร ก็เป็นอันหมดหน้าที่ของความทุกข์เมื่อนั้น แต่ตราบใดที่ยังไปไม่ถึงจุดนั้น ความทุกข์ก็จะซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ จ้ำจี้จ้ำไชเราไม่หยุดหย่อน
ความทุกข์และความอุปสรรคหมดพิษสง กลับกลายเป็นโอชะให้แก่ชีวิตก็ได้เพราะธรรมชาติมอบพรอีกอย่างหนึ่งมาให้แก่เรา นั้นคือความสามารถที่จะแปรเปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นพลังสร้างสรรค์ได้ ด้วยเหตุนี้ ขยะปฏิบูลเมื่อถูกรากไม้ชอนไชไปถึง จึงกลายเป็นดอกไม้อันงดงามและผลไม้อันหอมหวาน
พลังแห่งชีวิต หรือพรพิเศษเหล่านี้กำลังทำงานอยู่แล้วทุกขณะ ถ้าเราไม่ยอมจำนนต่อความทุกข์เสียก่อน เราย่อมสามารถหลุดรอดได้ในที่สุด แต่ก่อนอื่นเราต้องให้โอกาสแก่พรเหล่านี้ด้วยการให้โอกาสแก่ชีวิตของเรา เริ่มต้นด้วยการให้ชีวิตของเราได้คงอยู่ ตราบใดที่ชีวิตยังไม่ถูกปลิดไป ย่อมมีวันเวลาที่ชีวิตจะงอกงามขึ้นใหม่ไม่ช้าก็เร็ว
จะเป็นการดียิ่งขึ้นไปอีก หากเราไม่ปล่อยให้พลังแห่งชีวิตเหล่านี้ทำงานแต่ลำพังแทนที่จะนิ่งดูดาย เราจะช่วยได้มากหากเข้าไปเสริมพลังแห่งชีวิตอีกแรงหนึ่ง ร่างกายแม้จะต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บอยู่ตลอดเวลา กระนั้น สมุนไพร โยคะ ไท้เก็ก อาหารที่สมดุล และการพักผ่อนที่พอเพียง ก็ยังจำเป็นอยู่เพื่อเสริมภูมิต้านทานให้เข้มแข็งขึ้น
ในทำนองเดียวกันไม่ว่ายามทุกข์หรือยามปกติสุข เราควรแสวงหาสิ่งดีงามมาให้แก่ชีวิตจิตใจของเราอย่างสม่ำเสมอเพื่อจะได้มีพลัง“ ย่อย” ความทุกข์ให้เป็นโอชะหล่อเลี้ยงชีวิตได้ดีขึ้น ยิ่งเวลาเป็นของมีค่า ก็ยิ่งจำเป็นต้องให้เวลาแก้จิตใจของเราด้วย การบำเพ็ญสมาธิ เจริญสติสม่ำเสมอ นึกคิดในทางกุศล หมั่นมองด้วยปัญญามีความปรารถนาดีต่อผู้อื่น เหล่านี้ล้วนเป็นโอสถเสริมสร้างพลังแห่งชีวิตอย่างวิเศษ ตรงกันข้าม การอยากได้ใคร่เด่นไม่รู้จักพอ ความโกรธเกลียด ความลำพองตน มีแต่จะบั่นทอนพลังแห่งชีวิต
พรนั้นเราไม่จำเป็นต้องขอหรือหาจากใครดอก ธรรมชาติมอบให้แก่เราอย่างเปี่ยมล้นมาตั้งแต่เกิดแล้ว ขอให้เรานำพรในตัวเรานั้นมาก่อประโยชน์สร้างสรรค์ให้เต็มเถิด ไม่เพียงแต่อายุ วรรณะ สุขะ และพละ เท่านั้นแม้กระทั้งความเจริญงอกงามของชีวิต อิสรภาพและความทุกข์ที่ให้ก็สำเร็จได้ด้วยพรในตัวเรา เพราะถึงที่สุดแล้ว สิ่งประเสริฐเหล่านี้มีอยู่แล้วในตัวเรา ขึ้นอยู่ว่าเราจะเข้าถึงหรือไม่ และเราใส่ใจที่จะบำรุงรักษาพรดังกล่าวมากน้อยเพียงใด
เพราะฉะนั้นจึงอยากเชิญชวนให้เราขอพรจากตัวเองบ้าง ถ้าจะขอให้คนหลุดพ้นจากความทุกข์เข้าถึงความสุขเกษมศานต์ ก็ขอให้หลุดพ้นด้วยพรและพลังในตัวเองเป็นสำคัญ
ถ้าจะหวังก็พึงหวังว่าขอชีวิตอย่าได้เหนื่อยอ่อนพรอย่าได้เดือดแห้งเลย
5.ให้นักศึกษาแปลข้อความต่อไปนี้เป็นภาษาไทย

