บทที่ 3
บ้านหลังน้อยในซอยริมน้ำ
สำหรับฤดูใบไม้ผลิในเมืองเล็ก ๆ เราจะเห็นธารน้ำไหลผ่านไปได้สะพานขนาดย่อม และบ้านเรือนตามตรอกซอกซอยอันเป็นภาพของเมืองริมฝั่งใต้ของแม่น้ำแยงซีเกียงที่งดงาม “ฟังเสียงฝนฤดูใบไม้ผลิอยู่ในบ้านหลังน้อยตลอดคืน รุ่งสางในตรอกลึกก็มีคนมาร้องขายดอกเหง” “ในตรอกลึกมีคนร้องขายลูกเชอร์รี่ พอฝนซาลูกเชอร์รี่ก็ยิ่งแดงงาม”มันเป็นกลอนที่ผมท่องได้ขึ้นใจในวัยเด็ก ทุกวันนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งหวนไห้ เพราะตรอกและธารน้ำไหลค่อย ๆ หายห่างไป และอาจเพราะหลายศตวรรษมานี้ ตรอกซอยทั้งหลายได้เปลี่ยนแปลงไปขณะที่ผู้คนยังคงท่องกลอนและระลึกถึงมันอยู่
ผมเกิดและเติบโตในเมืองริมฝั่งใต้ของแม่น้ำแยงซีเกียง หน้าบ้านเป็นตรอกและทางน้ำ บ้านของเราเป็นบ้านเก่า ๆ ปูพื้นด้วยหินสีเขียว กำแพงทาสีขาว ประตูหลังบ้านมีคลองน้ำใส มันช่างสงบเงียบและสวยงามเสียนี่กระไร ห้องหนังสือในบ้านเล็ก ๆ หลังนั้นเงียบจนไม่ได้ยินเสียงจ้อกแจ้กจอแจแม้แต่นิดเดียว ผมใช้ชีวิตวัยเยาว์มาในบรรยากาศเช่นนี้ผมรักตรอกเล็ก ๆ บ้านเรือนในซอยน้อย ๆ ผูกพันหัวใจผมตลอดมา
ตรอกซอยเล็ก ๆ ตามริมฝั่งใต้ของแม่น้ำแยงซีเกียง เป็นวัตถุดิบที่นักประพันธ์ทั้งหลายมักจะนำมาผูกเรื่องกัน ในด้านสถาปัตยกรรมบ้านเรือนในตรอกเหล่านี้ก็มีหลายรูปแบบ ผมเคยกล่าวไว้ว่า ลักษณะพิเศษของตัวเมืองในประเทศจีนก็คือ ถนนสายใหญ่ ๆเรียงขนานกันไป แต่นอกจากนี้แล้ว ตรอกซอยทั้งหลายก็เป็นคุณลักษณะอีกอย่างหนึ่งของเมืองด้วย ตรอกซอยเหล่านี้มีรูปลักษณ์แตกต่างกันไป ที่คดเคี้ยวก็มี ตัดเฉียงก็มี บางทีระหว่างถนนที่ขนานกันมีตรอกซอยคดเคี้ยว และบางช่วงของถนนที่คดเคี้ยวก็มีตรอกซอยคู่ขนาน รูปประตูกำแพงในตรอกซอยเหล่านี้ก็มีหลายแบบหลายอย่าง สูงต่ำใหญ่เล็ก และตกแต่งประดับประดาไม่เหมือนกันแม้แต่แห่งเดียว คนที่เดินผ่านตรอกซึ่งมีกำแพงขาวจะรู้สึกถึงความโดดเด่น เมื่อเดินไปเรื่อย ๆ ภาพก็จะเปลี่ยนไปพร้อมกับแสงเงาที่แปรเปลี่ยน
จากเช้าจวบค่ำ ยามเมื่อเดินผ่านกำแพงเตี้ย ก็ให้นึกถึงกลอนบทหนึ่งขึ้นมาได้ ใจความว่า“ภาพฤดูชุนเทียนงามวิไล ดอกเหงแดงบานไสวบนกำแพง” ตรอกบางตอนมีประตูมีบ้านคร่อม และมีหอกลองตีบอกโมงยาม แม้กระทั่งบ้านไม้หลังเล็ก ๆ ก็น่ารักมากนอกจากนี้ หญ้าป่าที่ขึ้นจากซอกหินที่อ่อนนุ่ม แม้ตรอกจะยาวมาก แต่ก็สงบเงียบและสวยงาม คนเดินในตรอกจึงไม่รู้สึกอ่อนล้าหรือเหน็ดเหนื่อย
ถ้าคุณได้ไปยืนอยู่ริมท่าน้ำ ชมเรือเล็กแล่นไปมา ตะโกนคุยกับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม และเห็นเงาโค้งของสะพานในน้ำคล้ายจันทร์ครึ่งเสี้ยว คุณก็จะพูดได้ว่า “คนสองฟากฝั่งตะโกนคุยกัน แม้ตรอกในน้ำก็มีสะพานข้าม” ตรอกบนบกกับตรอกในน้ำทางฝั่งใต้ของแม่น้ำแยงซีเกียงประกอบกันขึ้นเป็นทัศนียภาพอันงดงาม ภาพในลำน้ำสะท้อนความงามของสถาปัตยกรรมบนบก
ท่าเทียบเรือของชาวบ้านตามลำคลอง แม้จะสร้างขึ้นจากหลักหินเพียงสองสามหลัก แต่ก็มีหลายรูปแบบ ริมฝั่งปลูกเป็นเก๋ง ลึกเข้าไปเป็นบ้านและกำแพงสีขาว ที่ฝั่งน้ำกับเชิงกำแพงมีต้นหลิวต้นหยางซึ่งเกิดขึ้นเองสองสามต้น แลลงไปในผิวน้ำยิ่งมองก็ยิ่งงดงาม ปัจจุบันเราพากันอนุรักษ์เมืองที่มีชื่อต่าง ๆ ในประวัติศาสตร์ โดยมิได้เฉลียวใจว่าตรอกซอยและลำคลองเล็ก ๆ เหล่านี้ก็เป็นสิ่งสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่จะต้องอนุรักษ์ไว้ด้วย
การเที่ยวชมเมืองใหญ่ ๆ นั้นน่าสนุกสนาน แต่หากคุณได้มาเดินท่องตรอกซอยเล็กๆ ริมฝั่งน้ำเช่นนี้ดูบ้าง คุณจะพบว่ามันให้ความสุขไม่แพ้กัน และคงจะทำให้คุณอยากรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ตราบนานเท่านาน
临江小巷上的人家
小城的春天里,我们能看到溪流从小桥下流过、小巷人家,这些构成了一幅美丽的江南画卷。“小楼一夜听春雨,深巷明朝卖杏花”“深巷卖樱桃,雨余红更娇”,这是我幼儿时期耳熟能详的诗句。如今,越想越惆怅,因为小巷和溪流已渐行渐远,或许几百年以来,小巷都已变样,而人们还在通过诗句来怀念小巷原来的样子。
我出生并成长于江南,家门前便是临江的小巷,我们的房子有些老旧,地上铺着青石板,墙面刷成白色,后门外就是小河,无比的宁静美好,学堂在深巷处,以至于听不到一点嘈杂声。这是我少年时期的成长环境,我爱我的家乡,那是我魂牵梦绕的地方。
江南小巷经常是作家们创作的构思素材,在建筑学方面,这些小巷也是形态各异,我曾经说过,中国城市的一大特点便是纵横交错的公路,但除此之外,众多的小巷也是另一大特色,这些小巷各具特色,有的蜿蜒曲折,有的纵横交错,有时在平行的公路之间有小巷连接,而有时交错的公路之间又有平行的小巷出现这些小巷的门形状各异,高低错落,每家每户的装饰各不相同,穿过白墙小巷感受会更为明显,不停地走下去,眼前的画面也随着早至晚的光影而不断变化着, 当走过矮矮的墙时,就会立马联想到诗句"春色满园关不住,一枝红杏出墙来”,有些小巷上有牌坊和带敲钟的鼓楼,小小的木屋十分的可爱,此外,石缝上长出的小草是那样柔软,小巷悠长而幽静,人们走在小巷上不会感觉到疲倦。
如果你站在码头上,观看着过往小船川流不息,两岸的亲朋好友们大声聊天,还可以看见倒映在水面上的月牙形状的小桥倒影,这时你会想到“两岸啼笑闻不住,白桥隐于青巷间”。江南水乡的小巷和溪流拼凑成了一副美丽的画卷,陆地上的建筑倒影在水中又形成了美轮美奂的景象。
岸边村民们的码头,虽只是有三两石柱建成,但样式颇多。岸边有亭子,再往内就是房子和白墙,岸边墙角三两颗杨柳垂落在水面也别是一番风味。如今我们对很多历史古城都进行了保护,却不曾注意小河以及岸上小街小巷也是历史古城需要保护的必不可少的另一部分。
大城市的旅游的确饶有风趣,但你若到这江边小巷一游,你就会觉得小巷一点都不逊色于大城市风光,或许你也会想将这样的人间仙境永存于世。

