目录

  • 1 第9课 泰国农业工业化
    • 1.1 词汇
    • 1.2 课文
    • 1.3 作业
    • 1.4 补充阅读
  • 2 第10课 泰国礼仪
    • 2.1 词汇
    • 2.2 课文
    • 2.3 作业
    • 2.4 补充阅读
  • 3 第12课  体育锻炼
    • 3.1 词汇
    • 3.2 课文
    • 3.3 作业
    • 3.4 补充阅读
  • 4 第13课 传染病
    • 4.1 词汇
    • 4.2 课文
    • 4.3 作业
    • 4.4 补充阅读
  • 5 第14课 秀美的庐山
    • 5.1 词汇
    • 5.2 课文
    • 5.3 作业
    • 5.4 补充阅读
  • 6 第15课 新年快乐
    • 6.1 词汇
    • 6.2 课文
    • 6.3 作业
    • 6.4 补充阅读
  • 7 第一课 我们的世界
    • 7.1 词汇
    • 7.2 课文
    • 7.3 作业
    • 7.4 补充阅读由温度变化导致的大迁移
  • 8 第二课 鲁迅
    • 8.1 词汇
    • 8.2 课文
    • 8.3 作业
    • 8.4 西巫拉帕
  • 9 第三课 水巷小屋
    • 9.1 词汇
    • 9.2 课文
    • 9.3 作业
    • 9.4 水边的泰国生活
  • 10 第四课 水边生活
    • 10.1 词汇
    • 10.2 课文
    • 10.3 作业
    • 10.4 欧洲人眼里的船屋
  • 11 第五课 爸爸 我爱你
    • 11.1 词汇
    • 11.2 课文
    • 11.3 作业
    • 11.4 与天气预报员相处的日子
  • 12 第六课 那年今日
    • 12.1 词汇
    • 12.2 课文
    • 12.3 作业
    • 12.4 负责任
  • 13 第七课 最后一课(1)
    • 13.1 词汇
    • 13.2 课文
    • 13.3 作业
    • 13.4 泰语的重要性
  • 14 第八课 最后一课(2)
    • 14.1 词汇
    • 14.2 课文
    • 14.3 作业
    • 14.4 有自己母语的重要性
  • 15 第九课 卖火柴的小女孩
    • 15.1 词汇
    • 15.2 课文
    • 15.3 作业
    • 15.4 圣诞节
  • 16 第十课 可怜的邻居(1)
    • 16.1 词汇
    • 16.2 课文
    • 16.3 作业
    • 16.4 我的邻居
  • 17 第十一课 可怜的邻居(2)
    • 17.1 词汇
    • 17.2 课文
    • 17.3 新建课程目录
    • 17.4 作业
    • 17.5 我的邻居(续)
  • 18 第十二课 来自东北回到东北
    • 18.1 词汇
    • 18.2 课文
    • 18.3 作业
    • 18.4 东北
  • 19 第十三 生命之禀赋
    • 19.1 词汇
    • 19.2 课文
    • 19.3 作业
    • 19.4 人生观
  • 20 第十四课 中国的外交政策
    • 20.1 词汇
    • 20.2 课文
    • 20.3 作业
    • 20.4 中泰外交
  • 21 第十五课 曼谷宣言
    • 21.1 词汇
    • 21.2 课文
    • 21.3 作业
    • 21.4 东盟合作
课文

มารยาทไทย  เป็นอัตลักษณ์สำคัญของคนไทย  ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่สะท้องถึงความเป็นไทย  มีความสุภาพอ่อนโยนอันเป็นกิริยามารยาทที่ดีงาม  มีคุณค่าและความหมายที่ได้สั่งสมและสืบทอดต่อกันมานาน

หัว  คนไทยถือว่าหัวเป็นของสูง  ใครจะกล้ำกรายล่วงเกินไม่ได้  เช่น  เป็นต้นว่า  หยิบอะไรเหนือศีรษะผู้อื่นไม่ได้  ยื่นหรือส่งอะไรข้ามศีรษะผู้อื่นไม่ได้  ยิ่งจับหรือลูบศีรษะผู้อื่นแล้วยิ่งไม่ได้ใหญ่  สมมุติว่า  คนนอนอยู่บนเตียง  เราจะไปยืนตรงหัวเตียงหรือเดินผ่านหัวเตียงไปไม่ได้  ฯลฯ  ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องทำอะไรอันเป็นการกล้ำกรายเข้าไปใกล้ หรือเหนือศีรษะผู้อื่น  จะต้องขอโทษเขาเสียก่อน  เมื่อเขาอนุยาตแล้วจึงจะทำได้  ในบางกรณีถึงแม้ว่าเขาจะอนุญาตให้เราทำอะไรเหนือศีรษะเขาได้  แต่เราก็จะต้องขอโทษเขาเสียก่อน  เรื่องนี้ยิ่งผู้น้อยปฏิบัติต่อผู้ใหญ่แล้วต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ  แต่ทว่าผู้ใหญ่ลูบหัวเด็กด้วยความรักใคร่เอ็นดูนั้นไม่ถือ  ทำได้

เท้า  คนไทยถือว่าการใช้เท้าชีโน่นชี้นี่ให้ผู้อื่นดู  หรือใช้เท้าเขี่ยนั่นเขี่ยนี่ให้คนอื่นเป็นกิริยาที่ไม่ดี  หยาบหรือ  ไม่มีมารยาท  ถ้าไม่จำเป็นจริงๆแล้ว ไม่ควรทำ  ถ้าจำเป็นหรือแม้เขาอนุญาตให้ทำได้ก็ต้องขอโทษเขาเสียก่อน

นั่งยืดเท้าให้ผู้อื่นก็ไม่ได้  ถ้าจำเป็นต้องขอโทษเขาเสียก่อน  สมมุติว่าจะให้ผู้อื่นดูเท้าหรือรองเท้าของเรา        (แม้เขาจะเป็นฝ่ายขอดูก็ตาม)  เราจะต้องขอโทษเขาเสียก่อนเช่นกัน

มือซ้าย  คนไทยไม่นิยมยื่นของให้ผู้อื่น  หรือรับของจากคนอื่นด้วยมือซ้าย  ถือว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นกิริยา   ที่ไม่ดีหรือผิดมารยาท  ถ้าจำเป็นก็ต้องขอโทษเขาเสียก่อน

การส่งของให้ผู้อื่นจะต้องส่งให้ถึงมือ  โยนให้ผู้อื่นไม่ได้  ถือว่าเป็นกิริยาที่ไม่ดีหรือไม่มีมารยาท  ถ้าจำเป็น      ก็ต้องขอโทษเขาเสียก่อน

อนึ่ง  การหยิบ  ยื่น  หรือส่งของข้ามหน้าผู้อื่นถือว่าเป็นกิริยาที่ไม่ดีเช่นกัน  ถ้าจำเป็นก็ต้องขอโทษผู้ที่เรา         จะหยิบ  ยื่น  หรือส่งขอผ่านหน้าเขานั้นเสียก่อน

นั่งไขว่ห้าง  คนไทยถือว่าการนั่งไขว่ห้างต่อหน้าผู้ใหญ่  เป็นกิริยาที่ไม่สุภาพและเป็นการไม่เคารพผู้ใหญ่      การนั่งที่ถือว่าสุภาพคือการนั่งรวบเท้าชิดกัน  หรือไม่ก็ไขว่เท้าได้  (ถ้าเป็นการนั่งกับพื้น  ผู้น้อยต้องนั่งพับเพียบตามแบบของไทยจึงจะถือว่าสุภาพ)


จับมือ  เดิมไทยไม่มีประเพณีจับมือเมื่อพบกันหรือเมื่อลาจากกันเหมือนประเพณีของชาวตะวันตก                  หรือประเพณีของประเทศอื่นบางประเทศ  เมื่อคนไทยพบกันหรือเมื่จะลาจากกัน  นิยมทำความเคารพกันด้วยการประนมมือไหว้พร้อมกับการทักทายหรือการอำลา

เดี๋ยวนี้การจับมือกันในโอกาสดังกล่าวก็ยังไม่แพร่หลาย  โดยเฉพาะในชนบท  ดังนั้นโดยเฉพาะผู้หญิง           เขาไม่ยื่นมือมาให้เราจับก่อน  อย่าไปจับมือเขาง่ายๆ จะผิดประเพณี

อย่างไรก็ตาม  การจับมือนี้กำลังกลายเป็นประเพณีสากล  คนไทยค่อยรับเอามาใช้แพร่หลายขึ้น  โดยเฉพาะ   ในหมู่นักศึกษา  ปัญญาชนและชาวเมือง

ขึ้นเรือนต้องถอดรองเท้า  ตามประเพณีเดิมของไทย  เมื่อขึ้นเรือนต้องถอดรองเท้า  ยิ่งขึ้นกุฏิพระโดยเฉพาะ  เข้าโบสถ์แล้วยิ่งจำเป็นมากทีดียว  ประเพณีนี้ดูจะยังเคร่งกันอยู่ในชนบท  ส่วนในเมืองนั้นมีการลดหย่อนผ่อนคลายกันลงไปมากแล้ว  จึงควรพิจารณาถอดหรือไม่ถอดรองเท้าตามกาลและเทศะ  ส่วนการเข้าโบสถ์นั้นต้องถอดรองเท้า

เกี่ยวกับคำขานรับ  คนไทยเคร่งกับการใช้คำสุภาพในการพูดจาปราศรัยมากอยู่  ในการถามตอบ  ในคำขาน   ในการรับปาก  จะลงท้ายด้วยคำว่า  จ๊ะ  จ๋า  คะ  ขา  ครับ  ครับผม  ฯลฯ  คำใดคำหนึ่งแล้วแต่กรณี  ถ้าไม่ใช้คำเหล่านี้  ถือว่าไม่สุภาพ  โดยเฉพาะผู้น้อยเมื่อพูดกับผู้ใหญ่จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ